แผนการณ์อันยิ่งใหญ่- มนีรัตน์ เจนไธสง (จุ๋ม)

ชีวิตในวัยเด็กของจุ๋มเต็มไปด้วยความฝัน จุ๋มจึงเป็นเด็กที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำอะไรทำจริง และชอบแสวงหาการยอมรับทางสังคม ทุกอย่างที่จุ๋มทำด้วยมือของตัวเองจะต้องออกมาดีเยี่ยม และสิ่งนี้เป็นเหตุ ให้จุ๋มไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร โดยเฉพาะพระเจ้า ที่จุ๋มไม่พยายามเปิดใจ ที่จะรับฟัง และจุ๋มมั่นใจว่าชีวิตจุ๋มไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้าจุ๋มก็ประสบความสำเร็จได้   แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตจุ๋มต้องหักเหคือ ช่วงที่จุ๋มเรียนที่แม่โจ้ปี 3 สิ่งที่จุ๋มวิ่งหนีมาตลอดกลับเป็นว่าจุ๋มต้องพบเจอ คือเรื่องของพระเจ้า เมื่อผู้ชายที่จุ๋มรักมากและเขาคือคนที่จุ๋มจะแต่งงานด้วย เขาเป็นมาเป็นคริสเตียน และเขาได้ขอร้อง ให้จุ๋มมาโบสถ์ และลองศึกษาเรื่องราวของพระเจ้าดู เขาบอกว่า แค่ลอง เท่านั้น แต่เรื่องราวของพระเจ้ากลับกลายเป็นสิ่งเสพติดในชีวิตจุ๋ม ยิ่งลองก็ยิ่งติดใจ จุ๋มใช้เวลาหลายชั่วโมงในห้องสมุด เพื่อที่จะค้นคว้าศึกษาเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ ทุกวันอาทิตย์จุ๋มจะตื่นเต้นทุกครั้งที่รู้ว่าจะมาโบสถ์ และ 4 สัปดาห์ที่จุ๋มใช้คำว่า ลอง ศึกษาเรื่องราวของพระเจ้า ที่คริสตจักรไทยลานนา และในสัปดาห์ที่ 4 นั่นเอง ตอนนั้นเดือนมินายน ปี 40 น้ำตาดุจสายฝน ก็ได้หลั่งออกมาจากตาของจุ๋ม เป็นน้ำตาแห่งความสุข และเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่จุ๋มได้รับ นั่นคือ พระเยซูคริสต์ได้เข้ามาอยู่ในใจของจุ๋ม เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น ในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง กลับกลายเป็นเย็นที่โดร้ายมากสำหรับชีวิตจุ๋ม หลังจากที่จุ๋ม ตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่แล้ว ก็ได้โทรศัพท์เล่าให้พ่อฟัง แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือ จุ๋มถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน มันเจ็บปวดและทรมานที่สุด ตลอดระยะเวลา 9 เดือนเต็มที่จุ๋มเฝ้าอธิษฐานเพื่อที่พ่อจะเข้าใจ และจุ๋มเอง ก็เลิกเป็นคริสเตียน ตามคำร้องของพ่อไม่ได้ เพราะนี่คือลมหายใจของจุ๋ม จดหมายทุกฉบับที่จุ๋งส่งกลับบ้าน พ่อจะฉีกทิ้งทั้งหมด แต่ความแสนดีของพระเจ้าก็สำแดงต่อชีวิตจุ๋ม พ่อเปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย เมื่อจุ๋มต้องไปฝึกงานในพื้นที่ใกล้บ้าน พ่อส่งแม่ไปเยี่ยมจุ๋มที่ฟาร์ม และรับจุ๋มกลับบ้านพร้อมเลี้ยงอาหารมื้อพิเศษ ที่พ่อลงมือปรุงอาหารเอง และตั้งแต่นั้นมา จุ๋มก็กลายเป็นที่รักของครอบครัวดังเดิม แม่กับน้องชายก็เปิดใจต้อนรับพระเจ้า พ่อยังไม่เปิดใจ แต่ก็ไม่ต่อต้าน พอจุ๋มเรียนจบ เสียงของพระเจ้าดังและชัดเจนมาก พระองค์เรียกจุ๋มเข้าสู่งานที่ย่งใหญ่นั่นคือ การรับใช้พระเจ้าเต็มเวลา ได้ประกาศและเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้า ถึงแม้องค์การที่จุ๋มร่วมรับใช้อยู่ เขาจะมีนโยบาย ให้พนักงานทุกคนหาทุนสนับสนุนเอง จุ๋มก็ไม่กลัว เพราะพระเจ้าได้พิสูจน์ ให้จุ๋มเห็นการเลี้ยงดูของพระองค์ ผ่านพี่น้องที่รักพระเจ้า…

Read More

รักข้างเดียว-เปรียบดาว ปาสมุทร์

ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความรักแล้ว..ข้าพเจ้าอยากจะเขียนเรื่องของความรัก ความรักของมนุษย์มาจากพระเจ้า ข้าพเจ้าเชื่อว่า เหตุผลที่พระเจ้าใส่ความรักไว้ในใจมนุษย์ ก็เพื่อเป็นพื้นฐานให้มนุษย์สร้างความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เกิดความรู้สึกผูกพัน และปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกัน และเมื่อมนุษย์อยู่ร่วมกันก็เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์และถวายเกียรติแด่พระเจ้า   รักข้างเดียว ที่เกิดกับเพื่อต่างเพศ คงจะเจ็บปวด ขมขื่น บางคนอาจเคยมีความรู้สึกนี้ คนเราอาจรักข้างเดียว ไม่เฉพาะมนุษย์เท่านั้น หลายคนรักสุนัขตัวโปรด รักแมว รักสัตว์เลี้ยง รักต้นไม้ บางคนรักสิ่งที่ไม่มีชีวิต เช่น ตุ๊กตาหมี รักหมอนข้างรูปหัวใจ รักต่างหู ฯลฯ   แต่ถ้าเป็นรักข้างเดียวที่เป็นความรักเพื่อนต่างเพศ มักจะมีพื้นฐานมาจาการหลอกลวง ถูกหลอกให้รัก และอาจจะมีบ้างที่เข้าใจผิดไปเอง คิดว่าเขารักก็เลยรัก แต่แน่ละต้องมีเหตุสร้างให้เข้าใจผิด เพราะธรรมชาติของมนุษย์ จะรักเฉพาะคนที่รักตัวเองเท่านั้น เริ่มรู้สึกแล้วใช่ไหมคะว่า ความรักของมนุษย์นั้น แฝงความเห็นแก่ตัวอยู่ด้วยเสมอ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม..แม้รักข้างเดียวของมนุษย์จะเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม ก็ขอบคุณพระเจ้า เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์เราให้แตกต่างจากสัตว์อย่างสิ้นเชิง เพราะสัตว์ไม่อาจจะรู้สึกเจ็บปวดจากรักข้างเดียวได้เลย   เป็นการง่ายที่จะรักคนที่น่ารัก และเป็นการยากที่จะรักคนไม่น่ารัก เป็นความจริงที่ทุกคนคงไม่ปฏิเสธ แต่พระเจ้ารักเราในขณะที่เราไม่น่ารัก ความรักของพระองค์จึงประเสริฐ และสูงส่งกว่ามนุษย์ จนเทียบเท่ากันไม่ได้เลย ความรักของพระเจ้าสอนให้เรารู้จักการให้อภัยผู้อื่น อันเป็นจุดเริ่มแรกที่จะรักเขาได้ จากนั้น ก็สอนให้เรารู้จักลักษณะของความรักที่แท้จริงใน 1คร 13.4-7 “ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทคุณให้..ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอและมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง” และพระองค์ปรารถนาให้เรามีความรักแบบนี้ กับเพื่อนมนุษย์ของเรา ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกัน หรือต่างเพศ ต่างวัย น่ารักหรือไม่น่ารัก “ท่านทั้งหลายจงรักซึ่งกันและกัน” …..หมายถึง เราต้องรักคริสเตียนด้วยกัน   แต่ที่สำคัญที่สุดที่พระเจ้าบอกเราใน 1 คร.13.13 “ดังนั้นยังตั้งอยู่ในสามสิ่ง คือ ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด”…

Read More